ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืน
ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนเป็นทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ประสงค์จะขอรับทุนเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนในสถานศึกษา
ตามที่คณะกรรมการกำหนด
นิสิต นักศึกษามีสิทธิขอรับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนจากกองทุน ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. เป็นนิสิต นักศึกษาที่สถาบันอุดมศึกษาตอบรับให้เข้าศึกษา
วงเงินให้ทุน
รับทุนได้ตามอัตราค่าลงทะเบียนที่สถานศึกษากำหนด แต่ไม่เกินเพดานที่กำหนดดังตาราง
ระดับปริญญาตรี
หน่วย : บาท/ปี
กลุ่มสาขาวิชา อัตราสูงสุด
1. สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ 60,000
2. ศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ 60,000
3. วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 70,000
4. เกษตรศาสตร์ 70,000
5. สาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ 80,000
6. แพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ศาสตร์ 150,000
เงื่อนไขในการขอรับทุนการศึกษา
1. ขอรับทุนได้เฉพาะค่าเล่าเรียน(อัตราค่าลงทะเบียนดังกล่าวครอบคลุมค่าใช้จ่ายประเภทค่าหน่วยกิต ค่าธรรมเนียม และ
ค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่สถาบันการศึกษาเรียกเก็บ ซึ่งไม่รวมค่าหอพัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัวของนักศึกษา)
2. ขอรับทุนค่าเล่าเรียนได้ตามที่สถานศึกษาเรียกเก็บ แต่ไม่เกินเพดานของแต่ละกลุ่มสาขาวิชา
3. ขอรับทุนได้ตามจำนวนปีของหลักสูตร หากขอรับทุนเกินจำนวนปีของหลักสูตรต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขที่กองทุนกำหนด
4. ขอรับทุนเพื่อศึกษาในระดับ ปวส. อนุปริญญา และปริญญาตรีใบแรกจะได้รับสิทธิ์ขอรับทุนก่อนผู้ที่ขอรับทุนเพื่อศึกษาในระดับ ปวส.
อนุปริญญา และปริญญาตรีใบที่สอง
5. ในแต่ละปีการศึกษาขอรับทุนได้เพียงหลักสูตรเดียว
6. กองทุนฯ จ่ายทุนเพื่อการศึกษาให้ผู้ขอรับทุนโดยโอนเข้าบัญชีของสถานศึกษา
7. ปีการศึกษา 2549 จะเริ่มให้ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนในชั้น ปีที่ 1 ปวส. ปริญญาตรีและปริญญาตรีต่อเนื่อง และจะเพิ่มขึ้น 1 ชั้นปี
ในปีการศึกษาต่อๆไป
วิธีการขอรับทุนการศึกษา
นิสิตหรือนักศึกษาผู้ใดประสงค์จะขอรับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืน ให้ยื่นคำขอตามแบบ วิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการ
กองทุนเพื่อการศึกษากำหนด ณ สถานศึกษที่ศึกษาอยู่และดำเนินการดังนี้
* ส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนนักศึกษาให้กองทุนฯ
* จัดทำสัญญา/คำขอรับทุน
* ลงทะเบียนเรียนและยืนยันจำนวนค่าเล่าเรียนที่จะขอรับทุน
การรับทุน
กองทุนฯ จะเบิกจ่ายทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนให้นิสิต นักศึกษาโดยจ่ายผ่านให้สถานศึกษาโดยตรง และให้ถือว่าเงินที่
จ่ายดังกล่าวเป็นทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนที่นิสิต นักศึกษาต้องใช้คืน
การคืนทุนการศึกษา
ให้เป็นหน้าที่ของสถานศึกษาที่นิสิตหรือนักศึกษาที่ศึกษาอยู่ต้องแจ้งให้กองทุนทราบเมื่อนิสิตหรือนักศึกษาเพิกถอนการ
ลงทะเบียนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือเมื่อนิสิตหรือนักศึกษาพ้นสภาพการเป็นนิสิตหรือนักศึกษาไปแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใด
และหากต้องมีการคืนเงินทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนที่เหลืออยู่ของนิสิต หรือนักศึกษาผู้นั้นแก่กองทุน ตามระยะเวลาที่คณะกรรมการ
กำหนด(ภายใน 15 วัน หลังจากพ้นระยะเวลาการเพิกถอนการลงทะเบียน)
การแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ (สำหรับผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืน)
ผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนมีหน้าที่ต้องแจ้งในกรณีเปลี่ยนแปลงที่อยู่ปัจจุบันและที่อยู่ตามภูมิลำเนา หรือ
การย้ายสถานศึกษา และการสำเร็จหรือเลิกการศึกษา ให้กองทุนทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เปลี่ยนแปลงหรือสำเร็จ หรือ
เลิกการศึกษา หากผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนไม่ปฎิบัติตาม กองทุนฯอาจดำเนินการตาทระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วย
การบริหารกองทุนเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2549 ตามข้อ 28 คืออาจงดการให้ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืน และให้กรมสรรพากรเรียก
เงินที่ผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนได้รับไปแล้วทั้งหมดคืน โดยปรับค่าเงินต้นตามดัชนีราคาผู้บริโภค
ผู้กู้จากระบบ กยศ. สู่ระบบ กรอ.
* ผู้กู้ยืมแบบ กยศ. ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับ ปวส. และระดับปริญญาตรี ผู้กู้ยืมแบบ กยศ. ต่อไปจนจบ
* ผู้กู้ยืมแบบ กยศ. ชำระหนี้ตามเงื่อนไขเดิม
* ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับ ปวส. ทั้งที่เคยกู้และไม่เคยกู้ กยศ.มาก่อน ประสงค์จะศึกษา
ในระดับปริญญาตรีต้องขอรับทุน กรอ.เท่านั้น
การชำระหนี้
เมื่อผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนสำเร็จการศึกษา มีหน้าที่ต้องคืนเงินทุนการศึกษาที่ได้รับไปทั้งหมด ตามจำนวนและเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
1. ชำระคืนเมื่อมีรายได้ตั้งแต่ 16,000 บาท/เดือน โดยมีอัตราชำระคืน ดังนี้
รายได้/ปี รายได้/เดือน อัตราชำระคืนทุน
(ร้อยละของรายได้)
192,000 -360,000 16,000-30,000 5
360,001 - 840,000 30,001-70,000 8
840,001 ขึ้นไป 70,001 ขึ้นไป 12
2. ให้ผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนแจ้งนายจ้างที่ผู้รับทุนฯ เข้าทำงานให้ทราบถึงหน้าที่ของผู้รับทุนฯ ทันทีที่เข้าทำงาน
3. ผู้ประกอบการอิสระสามารถชำระหนี้ผ่านช่องทางการรับชำระตามที่กรมสรรพากรกำหนด
4. ในกรณีที่ผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนย้ายที่อยู่ หรือเปลี่ยนงานหรือสถานที่ทำงานหรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ
เงินเดือนหรือค่าจ้าง ผู้รับทุนฯต้องแจ้งให้กรมสรรพากรทราบภายใน 30 วัน
5. มูลหนี้จะถูกปรับตามดัชนีราคาผู้บริโภคในแต่ละปีตั้งแต่ปีแรกที่นิสิต นักศึกษาได้รับทุน แต่ไม่เกินอัตราร้อยละ 5 ต่อปี
6. ผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนอาจคืนเงินทุนที่ได้รับทั้งหมดโดยปรับค่าเงินตามดัชนีราคาผู้บริโภคแก่กองทุนฯ ก่อน
ถึงกำหนดที่ต้องชำระคืน และบอกเลิกการรับทุนเสียเมื่อใดก็ได้
7. ถ้าผู้รับทุนถึงแก่ความตาย ให้หนี้ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนเป็นอันระงับ หากพิการหรือทุพลภาพจนไม่สามารถ
ประกอบการงานได้ หรือเมื่ออายุครบ 60 ปี และยังชำระเงินคืนกองทุนฯ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคืนทุนการศึกษา
แบบต้องใช้คืนไม่ครบถ้วน ให้ถือว่าสิทธิเรียกร้องทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนที่เหลืออยู่เป็นอันระงับ แต่ไม่ตัดสิทธิผู้รับทุน
ที่จะชำระหนี้คืน
8. เมื่อผู้รับทุนฯ ผิดนัดชำระทุนคืน กรมสรรพากรจะส่งหนังสือแจ้งเตือน และส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามตามที่อยู่ที่ผู้รับทุนฯ
แจ้งไว้ หรือตามที่ได้ตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
9. ในกรณีที่ผู้รับทุนการศึกษาแบต้องใช้คืนใชำระคืนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร กรมสรรพากรจะกำหนดให้ผู้รับทุนฯ ต้อง
เสียเงินเพิ่มอีกไม่เกินร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือจะดำเนินการยึด อายัด และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
Web master by สำนักงานกองทุนมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
Saint john's University แก้ไขข้อมูลเมื่อ 4 กรกฎาคม 2549